VoyForums
[ Show ]
Support VoyForums
[ Shrink ]
VoyForums Announcement: Programming and providing support for this service has been a labor of love since 1997. We are one of the few services online who values our users' privacy, and have never sold your information. We have even fought hard to defend your privacy in legal cases; however, we've done it with almost no financial support -- paying out of pocket to continue providing the service. Due to the issues imposed on us by advertisers, we also stopped hosting most ads on the forums many years ago. We hope you appreciate our efforts.

Show your support by donating any amount. (Note: We are still technically a for-profit company, so your contribution is not tax-deductible.) PayPal Acct: Feedback:

Donate to VoyForums (PayPal):

Login ] [ Contact Forum Admin ] [ Main index ] [ Post a new message ] [ Search | Check update time ]
Subject: Re: ทำนาย


Author:
pkboy
[ Next Thread | Previous Thread | Next Message | Previous Message ]
Date Posted: 14:41:39 07/25/07 Wed
In reply to: lala 's message, "ทำนาย" on 11:12:11 09/21/06 Thu


ผมจะไปแสดงประชามติ “ไม่รับ” ร่างรัฐธรรมนูญ เพราะว่า หากรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ไม่ผ่านประชามติ ผมจะดีใจที่พวกเราคนไทยได้แสดงให้เห็นว่า

1. พวกเราไม่ต้องการ Officers ที่ไม่ใช่ Gentlemen

2. คนไทยเกลียดผู้นำที่ทำตัวเหมือนนักกรรโชก ขู่ว่า "จะเอาสิ่งที่ยื่นให้ข้างหน้าหรือจะเอาสิ่งที่ซ่อนไว้ข้างหลัง" (ซึ่งไม่ใช่การกระทำของสุภาพบุรุษเลย แต่เหมือนพวกมาเฟีย หรือนักเลงคุมซ่องโสเภณีมากกว่า)

3. พวกเราไม่ต้องการให้ใครบุกเข้าไปในสวนจิตรฯ ยามดึก แล้วบังคับให้ในหลวงลงนามแต่ตั้งตนเองเป็นผู้ยึดอำนาจ จากรัฐบาลที่ประชาชนเลือก (หากต้องการให้ชาวบ้านบอกว่า เป็น Officers and Gentlemen ก็ขอให้เลิกได้แล้ว)

4. พวกเราสะใจ เมื่อเห็นพวกที่ใช้ปืนปล้นสิทธิ และเสรีภาพของพวกเราไปถูกหน้า โดยการไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญของพวกมัน

5. ดีใจเมื่อพวกเราคนไทยสามารถกอบกู้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเรา (ที่ถูกอมนุษย์ใช้รถถังปล้นไป) คืนมาได้ โดยการลงคะแนนเสียง ไม่ยอมรับ สิ่งที่พวกมันยัดเยียดให้

6. พวกเราดีใจ ที่ได้ช่วยกันบอกให้ พวกหน้าไม่ฉลาด ที่อ้างว่า "รัฐธรรมนูญนั้น มาจากการปฎิวัติทั้งนั้น" รู้ว่า หลังจากได้รัฐธรรมนูญมาแล้ว บรรดา Officers and Gentlemen ในประเทศที่เจริญแล้ว ได้ช่วยกันแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านทางรัฐสภาฯ โดยสันติวิธีกันทั้งนั้น ไม่เหมือนในประเทศด้อยพัฒนา ที่ Stupid Officers ซึ่งหลงตัวเอง คิดว่า พวกเขาเท่านั้นคือกลุ่มบุคคลที่ประเสริฐกว่าคนไทยทั่วไป ชอบเอากำลังทหารออกมาล้มล้างรัฐบาลที่มาจากประชาชน แล้วใช้เวลาแค่ 2-3 วันเขียนรัฐธรรมนูญมาค้ำบัลลังก์ของพวกมัน ขณะเดียวกันก็เหยียบหัวคนไทยทั้งชาติ ซึ่งได้กระทำต่อเนื่องกันมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ตั้งแต่ จอมพล ป.จอมพลผินฯ จอมพลเผ่าฯ จอมพลสฤษฎ์ฯ จอมพลถนอมฯ จอมพลประภาษฯ จอม..สุจินดา ถึงเวลาเลิกพฤติกรรมที่นำมาถึงการดูถูกดูแคลนของนานาชาติได้แล้วหรือยัง? (พวกคุณอาจไม่อาย แต่ผมอายเค้าหว่ะ)

7. พวกเราสามารถบอกให้พวกหน้าไม่ฉลาดที่ไม่ใช่สุภาพบุรุษรู้ว่า เมื่อเห็นมีบุคคลใดบุคคลหนึ่งประพฤติผิดกฎหมายแล้ว แทนที่จะดำเนินการตามระบอบประชาธิปไตย ตามตัวบทกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ แต่พวกเขากลับมากระทำผิดกฎหมายเสียเองด้วยการฉีกกฎหมายสูงสุดของประเทศทิ้งไปนั้น ไม่ได้ทำให้การกระทำของพวกเขา กลายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่กลับเป็นการกระทำที่เลวกว่า (เพราะเมื่อเห็นว่ามีบุคคลใดบุคคลหนึ่งกระทำความผิด แล้วตนเองก็กระทำความผิดด้วยนั้น ก็เปรียบได้ดังพฤติกรรมของสัตว์ที่ไม่มีความรู้จักผิดชอบชั่วดีเช่นมนุษย์)

8. สุดท้าย เพื่อเป็นการบอกให้รู้ว่า คนไทย ไม่ต้องการให้พวกทหารเป็นอำนาจที่ 4 เพิ่มจาก 1. อำนาจบริหาร 2. อำนาจนิติบัญญัติ 3. อำนาจตุลาการ และที่สำคัญที่สุดพวกเราต้องการให้ Officers ของพวกเราเป็น Gentlemen ไม่ใช่ faggots

>@ สถานการณ์บ้านเมืองยังอึมครึม!
>บรรยากาศบ้านเมืองตอนนี้จึงยังอึมครึม
>และยังเป็นประเด็นร้อนๆ
>ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องวิ่งวุ่นหา “ทางออก” กันอุตลุด
>โดยเฉพาะประเด็นสำคัญอันเกี่ยวโยงกับ “ผลบังคับ”
>ทางกฎหมายต่างๆ และละเลยไปไม่ได้เด็ดขาดในแง่มุมการ
>“ตีความ”
>กฎหมายรัฐธรรมนูญของบุคคลและคณะบุคคลที่ต่างกันในสังคมแห่
>งนี้
>ต้องไม่ลืมว่า “กฎหมายรัฐธรรมนูญ”
>ฉบับปัจจุบันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศที่ผ่านการพิจารณาอ
>ย่างถ้วนถี่เป็นครั้งแรกจา
>ก คณะสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เมื่อปี พ.ศ. 2539-2540
>
>แต่ “เหตุการณ์”
>ทางการเมืองครั้งนี้กลับเป็นภาพสะท้อนมุมกลับเหมือนต้องกา
>รให้มี“รัฐประหาร” รัฐธรรมนูญของประเทศกระนั้น!!
>
>เพราะต่างไม่ยอมรับ “กติกา”
>ที่ดำเนินตามกรอบของกฎหมายรัฐธรรมนูญ
>หากแต่พยายามจะฉุดยึด “วิธีปฏิบัติ”
>นอกกรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญมาใช้แทน ภายใต้ “ปฏิบัติการ”
>ที่ล่อแหลมต่อ “เสถียรภาพ”
>ความมั่นคงทั้งการเมืองและเศรษฐกิจชาติอย่างน่าเป็นห่วง
>
>ทั้งที่ “จุดเริ่ม”
>ความวุ่นวายของบ้านเมืองยามนี้...เริ่มมาจากความ
>“ขัดแย้ง” ระหว่างบุคคลเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
>แต่เหตุการณ์ไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในกรอบผลกระทบระหว่างกลุ่ม
>คนดังกล่าว กลับขยายใหญ่ลากโยง “ประชาชน”
>คนค่อนประเทศให้ต้องพากันออกมาแสดง “จุดยืน” ร่วมกัน
>จนกลายเป็น “วาระแห่งชาติ” ขึ้น
>แม้จะมีการ “เปลี่ยนแปลง” ทางการเมืองขึ้นแล้ว
>ด้วยการที่ “รัฐบาล” ภายใต้การนำของ “พ.ต.ท.ทักษิณ
>ชินวัตร” ได้ประกาศ “ยุบสภา” แล้ว “เลือกตั้ง”
>เพื่อล้างไพ่ใหม่
>แต่ดูเหมือนสถานการณ์ทั้งหมดก็ยังไม่คลี่คลายลงตาม
>กลับยิ่งเพิ่มความขมุกขมัวให้กับภาพรวมมากขึ้นๆ...จนอาจกล
>่าวได้ว่าขณะนี้ภาวการณ์ “ไร้ทางออก” หลายๆ
>ด้านกำลังมาเยือนสังคมไทย
>ในภาวการณ์นี้เชื่อว่า หลายๆ
>คนก็คงเริ่มตั้งคำถามกับตนเองว่า...มันเกิดอะไรขึ้นกับประ
>เทศไทยกันแน่!!
>
>
>
>@ “เสาร์”ทับ“จันทร์”ฉุดทักษิณทรุด!
>อีกแง่มุมหนึ่งสังคมอาจหาคำตอบได้จากการที่
>“เส้นทางนักขาย” ได้รับโอกาสดีจาก “อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ”
>เลขาธิการสถาบันพยากรณ์ศาสตร์
>โหรดังผู้ฟันธงดวงชะตาคนดังให้เห็นผลการทำนายกันจะจะมาแล้
>วนับไม่ถ้วน กางตำรา “โหรลักษณ์ฟันธง” พิเคราะห์
>“ดวงเมือง” กับ “ดวงผู้นำ” ประเทศคนใหม่หลัง 2 เมษายน
>2549 นี้ไว้อย่างน่าสนใจให้ติดตามดังนี้
>“...ดวงเมืองในปัจจุบัน ปี 2549
>ดาวเสาร์โคจรอยู่ในราศีกรกฏ โหรพูดอย่างนี้
>ดังนั้นนักดาราศาสตร์ก็ต้องพูดอย่างนี้เหมือนกัน
>ดาวเสาร์โคจรผ่านดาวโหมดเคนเซอร์ตั้งแต่ประมาณวันที่ 29
>มิ.ย. 48 จนถึง 10 สิงหา ปี 2550
>และดาวเสาร์โคจรในโหมดเคนเซอร์อย่างนี้
>แปลว่าเหตุการณ์แบบนี้มันต้องเกิดขึ้นทุก 30 ปี...”
>“อ.ลักษณ์” กล่าวและว่า เมื่อ 30 ปีที่แล้วเอา พ.ศ. 2549
>ตั้ง ลบด้วย 30 ก็ประมาณ ปี พ.ศ. 2517-2519 โดยประมาณ
>จำได้ไหมว่าตอนนั้นก็เกิด “นายกฯพระราชทาน” คือ
>“นายสัญญา ธรรมศักดิ์” โดยที่ตอนนั้น “จอมพลสฤษดิ์
>ธนะรัตน์” ตาย แล้วหลังจากนั้นมีรัฐบาลของ “จอมพลถนอม
>กิตติขจร”
>หลังจากนั้นจึงเกิดความวุ่นวายเกิดขึ้นจอมพลถนอมจึงออกนอก
>ประเทศ แต่ครานั้นรัฐธรรมนูญเป็นแบบเผด็จการ
>เหตุเพราะว่ารัฐธรรมนูญเป็นฉบับเผด็จการ
>น้อมนำมาถึงปัจจุบัน “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร”
>ก็เจอเหตุการณ์คนแตกแยกทางความคิด
>และคนหาว่าเป็นเผด็จการ ตนอยากชี้ให้เห็นอย่างหนึ่งว่า
>“พ.ต.ท.ทักษิณ”
>มาด้วยระบบการเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตย
>และมาด้วยรัฐธรรมนูญฉบับ สสร.. ซึ่ง “พ.ต.ท.ทักษิณ”
>สมัครและสอบได้ที่เชียงใหม่และมาสอบตกที่กรุงเทพ
>
>
>
>@ “อ.ลักษณ์”ชี้“ดวงเมือง”พ้นวิกฤต!
>“...หมายถึงไม่ได้เป็น สสร.
>ไม่ได้มีส่วนในการร่างกฎหมายเลย
>เพราะฉะนั้นใครที่ดูว่าพ.ต.ท.
>ทักษิณเป็นเผด็จการให้มองดูที่กระบวนการแห่งความคิดและกลว
>ิธีนี้มันไม่จบไม่สิ้นและม
>ีกระบวนการของมันต่อไป
>เดี๋ยวมันจะมียุคสมัยที่เกี่ยวข้อง
>ผมกำลังจะสืบความว่าดวงเมืองปัจจุบันเป็นอย่างไร…”
>“อ.ลักษณ์” กล่าวและย้อนหลังไปอีกว่า เมื่อ 60 ปี
>ที่แล้วเอาพ.ศ. 2549 ตั้งลบด้วย 60 ก็ประมาณพ.ศ.
>2488-2499 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2
>เหตุการณ์บางอย่างตามทฤษฏีดาวเสาร์โคจรในราศีกรกฏนั้นก็เก
>ี่ยวข้องกับดาวจันทร์ของดว
>งเมือง ซึ่ง “พระจันทร์” คือ “ประชาชน”
>“...พระจันทร์คือหัวจิตหัวใจ อารมณ์ของคน
>ปรัชญาของโหราศาสตร์คือ เสาร์หากทับลักษ์ ทับจันทร์
>ทับลักษคณาราศีเกิดใคร ทับพระจันทร์จะพลันร้าย วิบัติ
>ฉิบหาย ลูกเมียหนี เพราะอะไร เสาร์หากทับลักษ์
>ทับจันทร์จะเกิดการร้าย วิบัติลูกเมียหนี
>เกิดบ้านแตกสาแหรกขาด เกิดการแตกแยก ความคิดแตกแยก
>คนในสังคมแตกแยก คนแตกแยกทางความคิด ขาดความรักสามัคคี
>นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น...”
>“...เวลานี้ดวงเมืองเป็นเวลาที่น่าสนใจ
>ผมสรุปดวงเมืองแล้วว่า
>ไม่มีเหตุอันใดเลยในดวงเมืองที่จะมีเหตุร้าย
>หรือความวิกฤตเกิดขึ้น จะมีเพียงแค่ว่าคนบางคน
>บางคณะรู้ดวงเมือง
>แล้วกำลังจะนำประวัติศาสตร์ในอดีตมาให้มันซ้ำรอยเดิม
>แทนที่จะนำประวัติศาสตร์มาเป็นบทเรียน ว่าสิ่งไหนควรเกิด
>สิ่งไหนไม่ควรเกิดซึ่งคณะผู้นำในการปลุกม็อบ ต้านม็อบ
>สู้ม็อบ ละเถิดเพราะวันหนึ่งท่านจะคือทรราช
>ท่านคือคนจุดไฟกลางเมืองที่ทุกอย่างมันกำลังจะดี...”
>
>
>
>@ “ทักษิณ”เคราะห์ยาวถึงปลายปี50!
>นอกจากนั้น “อ.ลักษณ์” ได้กางตำราตรวจดูดวงชะตาของ
>“พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร”
>หัวหน้าพรรคไทยรักไทยในช่วงระหว่างวันที่ 29 มิ.ย. 2548
>จนถึง 10 สิงหา ปี 2550
>ซึ่งเป็นช่วงระหว่างเวลาที่ยังอยู่ในห้วงแห่ง “ดาวเสาร์”
>โคจรอยู่ใน “ราศีกรกฏ”
>“...ตกสุด ๆ ห้ามชน ห้ามเบรค ให้ไปอยู่ต่างจังหวัด
>เจอพระ โบสถ์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้ บูรณะ
>ก็จะช่วยได้เยอะ คุณทักษิณเป็นคนคิดไกล...”
>จากการตรวจดวงชะตาของ “พ.ต.ท.ทักษิณ” ของ “อ.ลักษณ์”
>ครั้งนี้ยังพบอีกว่า ในระหว่างระยะเวลาที่ “ดวงตกสุด”
>เช่นนี้เหตุการณ์ทางการเมืองที่เป็นมรสุมรุมเร้ารอบข้างรอ
>บกายของ “พ.ต.ท.ทักษิณ” ก็ยังต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี
>2550 ราวๆ เดือนตุลาคม เคราะห์กรรมเก่าทั้งหลายจึงจะหมดไป
>“...ตอนนี้เขารู้ว่านายกฯ ดวงตก รู้ดวงเมือง
>แต่เขาลืมไปว่า ครั้งก่อนที่มีนายกพระราชทาน
>เพราะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ แต่ทักษิณ
>มาจากระบอบประชาธิปไตย มาจากการเลือกตั้ง
>เป็นรัฐธรรมนูญฉบับสสร.”
>“อ.ลักษณ์”
>จึงกล่าวทิ้งท้ายถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองตอนน
>ี้ว่า “...อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าดวงเมืองไม่ได้พังทลาย
>ไม่ได้ล่มสลาย ดังนั้นไม่ต้องไปกลัว
>ไม่ต้องไปยั้งการผลิต
>ความเป็นจริงในอนาคตมันมีการขยายตัวในธุรกิจ
>มันมีการพัฒนาในมุมกว้าง ทุกอย่างจะดีหมด
>ไม่มีใครจะประท้วงอย่างนี้ตลอดปี ตลอดชาติ
>มันจะใช้เวลาไม่นาน ไม่น่าจะเกินเดือนสิงหาคม....”
>ด้านทางออกของ “พ.ต.ท.ทักษิณ” เอง “อ.ลักษณ์”
>ได้แนะนำสั้นๆ ไว้เพียงว่า “ให้นิ่งและหาที่ยืนให้ดี
>หลังปี 50 ทุกอย่างจะกลับมาดีหมด”
>
>
>
>@ ฟันธง“ผู้นำใหม่”ต้องเป็น“พ่อค้า”!
>สุดท้ายของสุดท้าย “อ.ลักษณ์” ได้ทำนายถึง “ดวงผู้นำ”
>ประเทศไทยคนใหม่ผู้ที่จะสามารถนำพาประเทศไทยให้เจริญต่อไป
>ได้ไว้ว่า บ้านเมืองในยุคปัจจุบันในโลก
>ดวงเมืองไทยก็ต้องอยู่กับดวงเมืองของโลกด้วย
>ดวงโลกในยุคต่อไปนี้ยี่สิบปี เป็นโลกแห่งการค้าไร้พรมแดน
>การช่วงชิงอำนาจผลประโยชน์ ระหว่างประเทศ
>“...ผู้นำประเทศไม่ว่าจะเป็นใคร หน้าไหนก็ตามที
>ตามหลักของดวงเมือง ผมต้องแนะนำว่า
>ผู้นำของประเทศไทยที่จะไปอยู่ในโลกปัจจุบันไปจนถึงอีกยี่ส
>ิบปีต้องเป็นคนที่รู้ทางกา
>รค้า ประสบความสำเร็จทางการค้า มีคอนเน็ทชั่นที่ดี
>ทั้งในและต่างประเทศ ฟันธง…ต้องเป็นคนรู้กลไกของธุรกิจ
>ต้องเป็นคนรู้ที่จะช่วงชิงอำนาจผลประโยชน์ระหว่างรัฐ
>ระหว่างเมือง ต้องกล้าเสีย กล้าได้ อันนี้เสียไป
>อันนี้ได้มา นี่คือผู้นำ…”
>“...ถ้าเอาผู้นำแบบซื่อสัตย์ ทำแบบอุดมคติ ยุติธรรม
>เป็นคนมีคุณธรรม มีศีลธรรม บ้านเมืองพังทันที ฟันธงเลย
>สำเนียกกันให้หนัก ๆ ศิลปินแห่งชาติ นักร้อง กวีนิพนธ์
>หรือแบบอุดมคติ ผมศรัทธาในงานของท่าน
>แต่ถ้าท่านเข้ามาการเมือง ท่านไม่เข้าใจหรอก
>ท่านจะมาเรียกร้องผู้นำอย่างนั้น อย่างนี้ ไม่ใช่…”
>“...ดังนั้นถ้าจะมาคิดว่า ต้องการผู้นำแบบซื่อสัตย์
>สุจริต มีคุณธรรม แบบอุดมคติ ถึงหาได้ก็คงไม่ยาก
>สึกเจ้าอาวาสสักวัดหนึ่งมาเป็นนายกฯ
>แต่บ้านเมืองจะฉิบหายทันที ฟันธง...”
>อย่างไรก็ตามเนื้อหาสาระที่ “เส้นทางนักขาย”
>นำเสนอในส่วนของ “คำทำนาย” ตามตำรา “โหรลักษณ์ฟันธง” ของ
>“อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ” เลขาธิการสถาบันพยากรณ์ศาสตร์
>โหรดังผู้ฟันธงดวงชะตาคนดังให้เห็นผลการทำนายกันจะจะมาแล้
>วนับไม่ถ้วน “เป็นเพียง”
>คำทำนายตามหลักโหราศาสตร์เท่านั้น
>มิได้เจตนาถือเป็น “ข้อเท็จจริง”
>ที่จะเป็นเหมือนคำตอบสุดท้ายให้สังคมแห่งนี้แต่อย่างใด
>ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ “ดุลพิเคราะห์” ของ “ผู้อ่าน”
>ทุกคนที่จะนำเหตุผลอื่นๆ
>มาวิเคราะห์ร่วมแล้วสรุปเป็นคำตอบสุดท้ายให้กับตนเองอีกคร
>ั้งหนึ่ง!!
>
>******************
>ที่มา หนังสือพิมพ์เส้นทางนักขาย ปักษ์ 1 - 15 เมษายน
>2549

[ Next Thread | Previous Thread | Next Message | Previous Message ]


Post a message:
This forum requires an account to post.
[ Create Account ]
[ Login ]
[ Contact Forum Admin ]


Forum timezone: GMT-8
VF Version: 3.00b, ConfDB:
Before posting please read our privacy policy.
VoyForums(tm) is a Free Service from Voyager Info-Systems.
Copyright © 1998-2019 Voyager Info-Systems. All Rights Reserved.